แม้จะมีการศึกษาทดลองกันมาอย่างยาวนาน แต่เรื่องของการนอนหลับและการฝันก็ยังคงเป็นปริศนาในทางวิทยาศาสตร์อยู่มาก เรามีทฤษฎีและสมมติฐานมากมายที่จะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีใครสามารถระบุได้แน่ชัดว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ อันที่จริงเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเราจึงต้องนอน (นั่นอาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้จริง ๆ นะ) มีการทดลองว่าสัตว์ทดลองที่ถูกรบกวนไม่ให้นอนนั้นจะตายลงในที่สุด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมการอดนอนถึงทำให้มันตาย มีการตั้งสมมติฐานว่าการฝันคือกระบวนการประมวลผลและจัดเรียงข้อมูลต่าง ๆ ของสมองในขณะหลับ แต่ก็ไม่มีใครอธิบายได้ว่าทำไมบางครั้งเราก็ฝันเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยคิดถึง หรือบางครั้งก็ฝันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตอีกต่างหาก ความลึกลับนี้ทำให้เรื่องของความฝันยังคงน่าสนุกเสมอมา
เคยสงสัยไหมว่าบางวันที่เราตื่นมาเราก็จำความฝันได้แม่นยำมาก เล่าได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่บางวันก็รู้แค่ว่าได้ฝัน แต่จำอะไรไม่ได้เลย ที่จริงมันมีคนที่มักจะจำความฝันได้แทบทุกคืน และคนที่นาน ๆ ครั้งจะจำได้สักที ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบเบาะแสใหม่ ๆ เกี่ยวกับความสามารถใจการจดจำความฝันของแต่ละบุคคล พวกเขาพบว่ามันมีความแตกต่างอย่างชัดเจนในการทำงานของสมองระหว่างผู้ที่จำความฝันได้ดี และผู้ที่จำความฝันไม่ค่อยได้
การศึกษาเกี่ยวกับสรีรวิทยาของการนอนเผยให้เห็นความแตกต่างของการทำงานของสมองอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผู้ที่มักจะจำความฝันได้ชัดเจนและบ่อยครั้ง กับผู้ที่จำความฝันได้เลือนลางและนาน ๆ จะทำได้สักครั้ง (จำได้ประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน) โดยพบว่าระหว่างการนอนหลับนั้น ผู้ที่สามารถจำความฝันได้ดีจะรู้สึกตัวบ่อย(ตื่นบ่อย)กว่า อีกทั้งยังสามารถตอบสนองเสียงเรียกชื่อตนเองได้ดีกว่าผู้ที่จำความฝันได้น้อยทั้งในขณะหลับและขณะตื่นนอน
ในการทำการศึกษา นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์วิจัยเกี่ยวกับระบบประสาทลียง ประเทศฝรั่งเศส ได้นำอาสาสมัครหนุ่มสาวที่มีสุขภาพดีจำนวน 36 คน มานอนในห้องแล็ปแล้วใช้ EEG (Electroencephalography : การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง) คอยตรวจวัดคลื่นสมอง แล้วให้พวกเขาใส่หูฟังที่จะเล่นเสียงกระตุ้นการได้ยินในช่วงเวลาต่าง ๆ ขณะนอนหลับ เสียงนั้นคือเสียงเรียกชื่อต้นของอาสาสมัครคนนั้น ๆ รวมทั้งเสียงเรียกชื่อต้นของคนที่ไม่คุ้นเคย
ครึ่งหนึ่งของอาสาสมัครเป็นผู้ที่จำความฝันได้น้อยมาก พวกเขาจำความฝันได้เฉลี่ยประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือนและไม่ชัดเจนนัก ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคือผู้ที่จำความฝันได้ชัดเจนและจำได้แทบทุกคืน และเหตุผลที่เลือกเสียงกระตุ้นการได้ยินเป็นเสียงการเรียกชื่อต้นก็เพราะว่ามันเป็นคำซับซ้อนที่ดูเหมือนว่าทุกคนจะตอบสนองได้ดีที่สุด
จากการทดลองเรื่องการตอบสนองชื่อต้นในขณะนอนหลับพบว่า ผู้ที่จำความฝันได้มากและน้อยแสดงคลื่นสมองออกมาต่างกันมาก ดูเหมือนว่าผู้ที่จำความฝันได้ดีจะตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ดีกว่ามาก ในขณะที่ผู้จำความฝันได้น้อยจะทนทานต่อสิ่งเร้าและการรบกวนได้ดีกว่า ซึ่งผลการศึกษานี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมคนเราจึงมีความสามารถในการจดจำความฝันได้ไม่เท่ากัน และสนับสนุนสมมติฐานของการศึกษาก่อนหน้านี้ที่มีอยู่ว่า ผู้ที่ตื่นบ่อยระหว่างการนอนหลับจะสามารถจดจำความฝันได้ดี
อย่างไรก็ตาม แม้เราจะรู้ว่าผู้ที่จำความฝันได้มากและน้อยนั้นมีการทำงานของสมองในขณะนอนหลับที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าอย่างไหนดีกว่ากันระหว่างการตื่นบ่อย ๆ แล้วจำความฝันได้ กับการหลับสนิทแล้วจำอะไรไม่ได้ การทดลองนี้ไม่ได้บ่งชี้ถึงการทำงานที่ดีหรือไม่ดีของสมอง เป็นเพียงการแสดงถึงวีธีการเลือกประมวลผลที่แตกต่างกันของสมองเท่านั้น กระบวนการทำงานที่ต่างกันนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องของการเลือกที่จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนการสร้างความฝันและการจดจำมันเท่านั้นเอง
credit:http://www.indepencil.com/